เตรียมร่างกายให้พร้อมสู้โรคที่มาช่วงหน้าฝนอย่างไรดี
อากาศร้อนจัดในฤดูร้อนของประเทศไทยกำลังจะผ่านพ้นไป ในที่สุดก็จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว หลายๆ คน คงจะชอบอากาศเย็นสบายตอนฝนตก แต่ทราบหรือไม่ว่าการที่อากาศเย็น และมีความชื้นสูงอย่างในฤดูฝนเช่นนี้ เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ของการเกิดโรค และการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่าง ๆ ทำให้หลายคนป่วยได้ง่าย ดังนั้นเรามาดูวิธีการเตรียมร่างกายให้พร้อมสู้กับโรคที่มาในช่วงหน้าฝนกัน

1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคและช่วยแก้ปัญหาด้านอารมณ์ ทำให้เรามีอารมณ์ที่ดีอีกด้วย การออกกำลังกายสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การเต้นแอโรบิค การเดินเร็วๆ การวิ่งเหยาะ การขี่จักรยาน หรือการเล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง การออกกำลังกายที่เหมาะสม คือ การออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 5 วัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที
อันที่จริงการออกกำลังกาย สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน เช่น การขึ้นบันไดแทนลิฟต์ การเดินไปเดินมาในบ้านระหว่างใช้คอมพิวเตอร์ การทำงานบ้าน และการเดินไปยังจุดหมายใกล้ ๆ อย่างร้านอาหารหรือร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน แทนการใช้ยานพาหนะก็นับเป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน

2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานในการใช้ชีวิตประจำวัน นอกเหนือจากรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้อแล้ว ควรเลือกรับประทานอาหาร ให้เหมาะสมกับช่วงวัย และสภาพร่างกายด้ว

• รับประทานเส้นใยให้มากขึ้น หรืออย่างน้อยวันละ 30 กรัม โดยอาหารที่มีเส้นใยประกอบด้วย ผัก ผลไม้ ธัญพืช เพราะจะช่วยป้องกันท้องผูก ลดระดับน้ำตาลในเลือด และควบคุมน้ำหนัก
• ลดเกลือในมื้ออาหาร เพื่อรักษาระดับความดันเลือด ผู้ใหญ่ควรบริโภคเกลือในมื้ออาหารไม่เกิน 6 กรัมต่อวัน หรือประมาณ 1 ช้อนชา เพื่อไม่ให้เกิดภาวะโซเดียมสูงเกินไป
• หลีกเลี่ยงการกินไขมันอิ่มตัว เพราะเป็นสาเหตุของภาวะไขมันในเลือดสูง เสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้ สำหรับอาหารซึ่งควรหลีกเลี่ยงไม่ควรกินในปริมาณมาก ได้แก่ ของทอด ไอศกรีม อาหารหรือขนมหวานที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบ ขนมอบ ชีส ไส้กรอก เบคอน
• ลดการบริโภคน้ำตาล เนื่องจากการบริโภคน้ำตาลเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง รวมถึงโรคเบาหวาน นอกจากนี้ ในกรณีของผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน การลดปริมาณน้ำตาลที่บริโภคในแต่ละวัน ยังช่วยป้องกันไม่ให้อาการที่เป็นอยู่แย่ลงด้วย

3. การพักผ่อนให้เพียงพอ
ระหว่างที่เราหลับ ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และสร้างภูมิคุ้มกัน ดังนั้นควรนอน 6-8 ชม. ต่อวัน ซึ่งวันไหนที่คุณพักผ่อนเพียงพอ คุณจะรู้สึกสดชื่น ร่างกายพร้อมทำงานเต็มที่ การที่คุณนอนดึกจะส่งผลต่อการทำงานของ Growth hormone รวมไปถึงการทำงาน ของอวัยวะที่ทำหน้าที่กำจัดสารพิษในร่างกายของเราทำงานได้ลดลงอีกด้วย

4. การดื่มน้ำให้เพียงพอ
ในแต่ละวัน น้ำจะถูกขับออกไปจากร่างกายของเราประมาณ 2.5 ลิตร ทางปัสสาวะ อุจจาระ ปอด เหงื่อ เป็นต้น ดังนั้นเพื่อทดแทนการขาดน้ำ เราจึงจำเป็นต้องดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย อย่างที่ทราบกันทั่วไปว่าการดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว นั้นเพียงพอต่อการทำงานของร่างกาย แต่แท้จริงแล้วปริมาณที่เหมาะสมอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ของผู้บริโภค เช่น กิจกรรมที่ทำ เพศและอายุ
นอกจากนี้ น้ำที่เราดื่มควรเป็นน้ำอุ่น หรือน้ำอุณภูมิห้อง เพราะมันจะช่วยเรื่องการปรับอุณหภูมิร่างกายให้เหมาะสม โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน ที่จะมีอากาศเย็นเป็นพิเศษ

5. เสริมภูมิคุ้มกันด้วย วิตามินซี
รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิระ และป้องกันเชื้อไวรัสได้อย่างดี ผลไม้ที่มีวิตามินซีมากได้แก่ ส้ม ฝรั่ง มะนาว มะละกอ หากไม่สะดวกทานผลไม้ แนะนำให้ทานอาหารเสริมเพื่อช่วยให้ร่างกายมีวิตามินเพียงพอ โดยปริมาณเฉลี่ยต่อวันคือ 1,000 มิลลิกรัม

6. พกร่มและเสื้อกันฝนเสมอ
เราควรเตรียมพร้อมอย่างเสมอ เพราะชีวิตมีความไม่แน่นอน ฟ้าฝนก็เช่นกัน และเชื่อเถอะว่า วันไหนที่เอาร่มออกจากกระเป๋า วันนั้นฝนจะตกนะ