เป็นหวัดหรือภูมิแพ้ อาการต่างกันยังไง?
ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย บางครั้งร่างกายเราอาจปรับตัวไม่ทันรวมไปถึงภูมิคุ้มกันต่ำ ส่งผลให้ป่วยหรือเป็นไข้หวัดได้ แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเราป่วยเป็นไข้หวัด หรือเป็นภูมิแพ้อากาศ เพราะทั้ง 2 โรคมีลักษณะอาการคล้ายกัน ดังนั้นการทำความรู้จักอาการของโรคจะช่วยให้แยกอาการแตกต่างของโรคออกจากกันได้ เพื่อลดความวิตกกังวล และสามารถเฝ้าระวังโรคได้ง่ายขึ้น

1. โรคไข้หวัด
ไข้หวัดเป็นโรคติดเชื้อที่พบได้บ่อยทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซึ่งมีหลายสายพันธุ์ มักพบในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง มีความรุนแรงของโรคไม่มาก และสามารถหายเองได้ ภายในไม่กี่วัน โรคหวัดนั้นสามารถติดต่อผ่านทางน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะ โดยการหายใจเอาเชื้อที่กระจาย จากการไอ จาม หรือมือที่เปื้อนเชื้อโรคสัมผัสจมูกหรือตา

อาการของโรคหวัด
1. น้ำมูกข้น (หรืออาจใสก็ได้)
2. ตัวร้อน มีไข้ขึ้น 37 - 39 องศาเซลเซียส
3. ไอแห้ง เจ็บคอบ้าง (อาจไอมีเสมหะได้ด้วย)
4. ปวดหัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร

2. โรคภูมิแพ้
ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส แต่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผู้ป่วยเอง จะมีผลต่อความผิดปกติของจมูกและตา ซึ่งจะต่างจากไข้หวัดที่จะส่งผลกระทบต่อระบบในร่างกาย และระบบทางเดินหายในส่วนล่าง

อาการของโรคภูมิแพ้
1. น้ำมูกใส คัดแน่นจมูก
2. ไม่ตัวร้อน ไม่มีไข้
3. ไอแห้ง จาม เจ็บคอ
4. อาจปวดหัว หูอื้อ อ่อนเพลียบ้าง
อาการดังกล่าว มักจะมีอาการ เป็นๆ หายๆ (จะเป็นเมื่อมีเหตุมากระตุ้น) เมื่อผู้ป่วยมีอาการ จะต้องมีเหตุที่กระตุ้นทำให้เกิดอาการนำมาก่อน เช่น
- ความเครียด, การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ, อารมณ์เศร้า, วิตก, กังวล, เสียใจ
- ฝุ่น, ควัน, อากาศที่เปลี่ยนแปลง
โดยอาการดังกล่าวจะดีขึ้นเองหลังหมดเหตุดังกล่าว หรือดีขึ้นหลังได้รับประทานยาแก้แพ้
เพราะฉะนั้น เราควรสังเกตตัวเองเมื่อเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง เพื่อหาวิธีป้องกัน หรือรับมือ ให้ทันก่อนที่อาการจะเป็นหนักกันนะ